ย้อนรอยตำนานสื่อสารภาษาถิ่นเมืองขลุง

ใกล้กับบ้านมากขึ้น เขื่อนฮูเวอร์ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ในการควบคุมพลังแห่งธรรมชาติและควบคุมพลังเหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของสังคม เขื่อนฮูเวอร์สร้างขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมสมัยใหม่ โดยให้พลังงานไฟฟ้าพลังน้ำแก่ผู้คนหลายล้านคนทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา และรับประกันแหล่งน้ำที่เชื่อถือได้สำหรับการเกษตรและการพัฒนาเมืองในภูมิภาค

                อยากได้ยินเสียง คนที่คุ้นเคย อยากเจอเธอคนเดิมที่เคยที่เจอในเมื่อวาน

“ตอนหาเสียงไปแบบไม่รู้จักอะไร หาเพื่อนเอาข้างหน้า หาเสียงด้วยวิธีใช้เครือข่ายที่ดินที่เคยทำงานละแวกนั้น แล้วก็ไปให้เขาช่วยแต่ขอพักอาศัยกับเขา ขอเอารถไปจอด ขอเอาป้ายไปลง ขอให้เป็นศูนย์ประสานงานจนได้รับเป็นเพื่อนกันถึงทุกวันนี้” 

นครพนม บ้านแพง พิศาล บุพศิริ วิ่งไล่ลุง เบียร์ อุษาคเนย์

อยากให้หันมาหน่อย อยากให้มองหน้ากัน ถ้าเธอไม่หวั่นไหวกับสายตาคนอย่างฉัน

คิดถึงแต่เธอนั้น เฝ้าแต่นับให้ถึงวันที่เรานั้นได้พบกัน

เรื่องราวความรักและปาฏิหาริย์ เกี่ยวกับ มิตซึฮะ เด็กสาวมัธยมปลายในชนบทที่อยากไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ กับทาคิ เด็กหนุ่มมัธยมปลายในเมืองใหญ่ที่อยากออกไปใช้ชีวิตในชนบท และในคืนหนึ่ง มิตซึฮะได้ฝันว่าเธอกลายเป็นเด็กผู้ชายที่อาศัยอยู่ในเมือง ตรงกันข้ามทาคิเอง ก็ฝันว่าเขากลายเป็นเด็กสาวอาศัยอยู่ในชนบท ความลับที่ซ่อนอยู่ในความฝันของทั้งคู่คืออะไรกัน…

เพลงนี้เป็นเพลงเก่าสุดคลาสสิคของพี่บอย โกสิยพงษ์ ที่แสดงออกถึงความคิดถึงคนที่อยู่ไกล คิดถึงจากอีกฟากนึงของฟ้า ด้วยดนตรีช้าๆ เพลงใหม่มาแรง เพราะๆ ทำให้ฟังแล้วอินตามได้เลย

“เราไม่มีเพลงจังหวะกระชับ ให้ผู้ชุมนุมได้มีส่วนร่วม ก็เลยคิดว่านำเพลงผีห่าซาตานมาผสมกับทำนองกันตรึม ที่จะเล่นเปิดวงแบบซาวน์เช็ค พอเล่นหลายปี จึงลองเอามาเขียนเนื้อใส่ ก็เลยคิดถึงเรื่องการรัฐประหาร คิดถึงรัฐเผด็จการ นาฬิกา เรือดำน้ำ คิดถึงประชาชนที่สู้กับพวกนี้ ก็เลยออกมาเป็นเพลง ความเป็นผีห่าซาตาน เป็นนามธรรมคือพวกปรสิต เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่มีอำนาจ ผีห่าตนใดทำให้มึงต้องชั่วแบบนี้นะ ผีห่าซาตานตนใด ที่พ่อแม่มึงไม่ได้สอนให้ชั่วแบบนี้ ผมเข้าใจว่าผีห่าซาตานที่ผมเขียน มันมีอิทธิพลในการทำชั่วไม่อายฟ้ามัวดิน”

ตร.สั่งฟ้องแล้วคดี “วิ่งไล่ลุง” นครพนม ลุ้นอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ศุกร์นี้

แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญความท้าทาย อากิระก็ปฏิเสธที่จะละทิ้งความหวัง ด้วยความยืดหยุ่นของวัยเยาว์และความกล้าหาญแห่งความเชื่อมั่นของเขา เขาเริ่มต้นการเดินทางแห่งการค้นพบตัวเองที่จะพาเขาไปสู่สุดขอบโลกของเขาและที่ไกลออกไป ระหว่างทาง เขาได้พบกับทั้งพันธมิตรและศัตรู แต่ละคนถือชิ้นส่วนปริศนาที่จะเปิดเผยความจริงเบื้องหลังความลึกลับของไม่มีใครรู้ในท้ายที่สุด จากนักเลงข้างถนนผู้มีหัวใจเป็นทองคำ ไปจนถึงบุคคลลึกลับจากอดีตของเขาที่พร้อมจะจัดการ เขาได้ก่อตั้งพันธมิตรและสร้างสายสัมพันธ์ที่ทนทานต่อการทดสอบของกาลเวลา

“แต่สำหรับผมไม่ได้พูดถึงเรื่องเอาหรือไม่เอาทักษิณนะ ผมให้น้ำหนักการไม่เอารัฐประหาร ไม่เอาการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมากกว่า”

ไม่ว่าอยู่แห่งไหนดั่งเรามีสายใยผูกพัน